วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

งานประเพณีและเทศกาล


 วิ่งเฉลิมพระเกียรติสู่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2551

วันที่ 14 ธันวาคม 2551
ณ บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อำเภอกันทราลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ

จังหวัดศรีสะเกษร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดจัด “ การแข่งขันวิ่งเฉลิมพระ เกียรติสู่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2551 ” ในวันที่ 14 ธ.ค. 2551 ณ บริเวณผามออีแดง อุทยาน แห่งชาติเขาพระวิหาร อำเภอกันทราลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ศรีสะเกษ

อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 83 อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาพระวิหาร ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอกันทราลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ ผามออีแดง ซึ่งเป็น เนินผาที่มีทิวทัศน์สวยงามเป็นจุดชมวิวตามแนวพื้นที่ชายแดนประเทศไทย-กัมพูชา บนผาหินทรายมีภาพ สลักนูนต่ำ ของเทพ 3 องค์ ศิลปะแบบขอมมีอายุกว่า 1,500 ปี นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ถ้ำค้างคาว เสาธงชาติประวัติศาสตร์ สถูปคู่ น้ำตกขุนศรี สระตราว แหล่งหินตัด และทำนบโบราณ สำหรับพืชพรรณที่น่าสนใจมีมากมาย ตั้งแต่ดอกหญ้าจนถึงกล้วยไม้ รวมทั้งพืชสมุนไพรหลายชนิด ที่ โดดเด่น ได้แก่ เถาวัลย์สะบ้ายักษ์ โดยตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะมีป้ายสื่อความหมายให้ได้รับ ความรู้อีกด้วย

ในการนี้เพื่อเป็นการเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระ ชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้จัด “ การแข่งขันวิ่ง เฉลิมพระเกียรติสู่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2551 ” ขึ้น ซึ่งในครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 14 เพื่อเป็นการ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตลอดจนส่งเสริมให้เยาวชนและ ประชาชนทั่วไปได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการออกกำลังกาย เพื่อห่างไกลยาเสพติด

ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ในรุ่นประเภทต่างๆ  คือ ประเภท มาราธอน 10.5 ก.ม. ( ชาย/ หญิง ) รุ่นไม่เกิน 20 ปี รุ่น 21-30 ปี และรุ่น 31 ปีขึ้นไปหรือประเภทฮาล์ฟมาราธอน 21.25 ก.ม. (ชาย/ หญิง) รุ่น Over All เพื่อชิงเงินรางวัลและถ้วยพระราชทานฯ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรม ราชกุมารี ทั้งนี้นักวิ่งทุกรายการจะได้รับเหรียญที่ระลึกและเกียรติบัตรทุกท่าน

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
 สำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ โทร. 0 4561 1531
 ที่ว่าการอำเภอกันทราลักษณ์ โทร. 0 4566 1422
 สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ 0 4561 6308
 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0 4451 4447/8 หรือ  e-mail tatsurin@tatsurin.or.th



 ประเพณีไหลเรือไฟ
 ประวัติ / ความเป็นมา
เป็นประเพณีที่จัดขึ้นทั่วไปในหลายจังหวัดในภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดที่ตั้งอยู่ติดลำน้ำ เช่น แม่น้ำมูล- ชี แม่น้ำโขง เป็นต้น การไหลเรือไฟในภาคอีสานนั้นเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานยืนยันแน่ชัด สันนิษฐานว่าคงมีมาก่อนที่พุทธศาสนาจะเผยแพร่มาสู่ประเทศไทยเพราะสมัยก่อนกษัตริย์ไทยยึดถือพิธี พราหมณ์ู่ โดยได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย สมัยที่นำอารยธรรมเข้ามาเผยแพร่ในแถบสุวรรณภูมิ ดังพบว่า ประเพณีงานบุญโดดเด่นที่จัดขึ้นในภาคอีสานมักเกี่ยวโยงหรือผูกพันกับเรื่องของไฟเกือบทั้งสิ้น เช่น งาน แห่เทียนเข้าพรรษา บุญบั้งไฟ พิธีไหลเรือไฟ เพราะมีความเชื่อว่า “ ไฟ ” เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งในศาสนา พราหมณ์ เรียกว่า เทพอัคคี มีฐานะรองจากพระอินทร์สามารถเผาผลาญสิ่งชั่วร้ายและขจัดความทุกข์ยาก ให้ดับสลายไปได้

จังหวัดต่างๆ ที่มีการจัดประเพณีไหลเรือไฟ เช่น จังหวัดศรีษะเกษ จังหวัดเลย จังหวัดนครพนม จังหวัด หนองคาย จังหวัดอุบลราชธานี ฯลฯ มักจัดขึ้นคล้ายคลึงกัน แต่ก็แตกต่างกันในด้านคติ ความเชื่อในส่วน ของจังหวัดศรีสะเกษ มีความเชื่อว่า เป็นการเซ่นสรวงพญานาค ซึ่งสิงสถิตตามแม่น้ำลำคลองให้คุ้มครอง ผู้ที่สัญจรไปมาทางน้ำ ไม่ให้มีภัยอันตรายเข้ามากล้ำกราย

  กำหนดงาน

จัดขึ้นในช่วงเทศกาลออกพรรษา ระหว่างขึ้น 15 ค่ำ ถึง วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11  สามารถตรวจสอบราย ละเอียดได้ที่  www.tat.or.th/festival

 กิจกรรม / พิธี

การทำเรือไฟในอดีตนั้น ทำด้วยไม้ไผ่และต้นกล้วย ยาวเพียง 5-6 วาเท่านั้น ความสูงไม่เกิน 1 เมตรและ เป็นรูปเรือธรรมดา ทำราวไว้สองข้าง เพื่อวางขี้กะไต้ ตะเกียง หรือโคมไฟ มีการจัด ข้าวปลาอาหาร ขนม นมเนย ฝ้ายไน ไหมหลอด เสื่อผืน บรรจุไว้ข้างใน พอเวลาประมาณ 5 โมงเย็นจะเริ่ม ทำพิธีโดยนิมนต์ พระมาสวดและหลังการรับศีล ฟังเทศน์ ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว จึงให้ญาติโยมตกแต่งเรือด้วยดอกไม้ธูป เทียนที่ถือไปบำเพ็ญกุศลนั่นเอง พอย่ำค่ำก็นำเรือไฟออกไปกลางแม่น้ำโขงแล้วจุดไฟปล่อยให้เรือไหล ไปตามลำน้ำส่งแสงระยิบตาเลยทีเดียว ต่อมาการทำเรือไฟมีวิธีตกแต่งให้วิจิตรพิสดารมากยิ่งขึ้น รู้จักนำ เอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประกอบทำให้สามารถดัดแปลงเรือไฟให้มีรูปร่างแปลกตาออกไป ทั้งพระ ภิกษุ สามเณร ชาวบ้านแต่ละคุ้มวัดจะเตรียมจัดทำเรือไฟไว้ล่วงหน้าหลายวัน โดยนำเอาต้นกล้วยทั้งต้น มาเสียบไม้ต่อกันให้ยาว หลายวา วางขนานกันสองแถว กว้างห่างกันพอประมาณ แล้วนำไม้ไผ่เรียวยาว มาผูกไขว้กันเป็นตารางสี่เหลี่ยมมีระยะห่างกันคืบเศษวางราบพื้น มัดด้วยลวดให้แน่นและแข็งแรง เพื่อรอ การออกแบบภาพบนแผงผู้ออกแบบแสดงความคิดสร้างสรรค์อย่างสวยงามที่สุด เช่น ประดิษฐ์เป็นเรื่อง ราวตามพระพุทธประวัติหรือสัตว์ในตำนานบ้างเป็นพญานาค ครุฑ หงส์ เป็นต้น แล้วนำไปปักติดเป็นเสา บนแพหยวกกล้วย

ในอดีตเชื้อเพลิงที่ใช้จุดไฟนั้นใช้น้ำมันยางตระบอกขี้ผึ้งสีน้ำมันพร้าว, น้ำมันสน, น้ำมันยางที่เจาะสกัด จากต้นยาง ตะแบกชาด แล้วเอาไฟลนไม้ให้น้ำมันไหลออกมาแต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นน้ำมันก๊าดหรือน้ำมัน ดีเซล บรรจุในขวดน้ำดื่มต่างๆ แล้วนำมาแขวนตามโครงเรือ ซึ่งต้องอาศัยการคำนวณที่แม่นยำ เพราะถ้า ติดกันมากเกินไปจะทำให้เรือไหม้ไฟได้ ส่วนโครงเรือเป็นไม้มีขนาดใหญ่ และเน้นความวิจิตรตระการตา เมื่อปล่อยเรือไฟลงน้ำโขงแล้ว จะมีความวิจิตรตระการตา สว่างไสวไปทั่วริมฝั่งแม่น้ำโขง อวดโฉมระยิบ ระยับ มีฉากหลังเป็นสีดำจากท้องฟ้าในยามค่ำคืน และแสงที่สะท้องจากท้องน้ำเพิ่มความงดงามมากขึ้น
ก่อนที่จะมีการไหลเรือไฟ ในช่วงเช้าจะประกอบการกุศล การทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหาร และเลี้ยง ดูกัน ตกตอนบ่ายก็ตกแต่งเรือและมีการเล่นสนุกสนานต่างๆ ตอนเย็นมีการสวดมนต์รับศีลและฟังเทศน์ พอตอนค่ำระหว่าง 19.00-20.00 น. จึงนำเรือออกไปลงน้ำและพิธีไหลเรือไฟก็เริ่มขึ้น


 งานเทศกาลดอกลำดวน

จัดขึ้นเป็นประจำระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคมของทุกปี ณ สวนสมเด็จศรีนครินทร์ เป็นช่วงที่ดอกลำดวนใน สวนกำลังบาน ภายในงานประกอบด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านสี่เผ่า คือ เขมร ส่วย ลาว เยอ การออกร้านจำหน่ายสินค้าหัตถกรรม สินค้าพื้นเมือง การแสดงละครประกอบแสงเสียงตำนานการสร้าง เมือง



  งานเทศกาลเงาะทุเรียนศรีสะเกษ
จัดเป็นประจำในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ หรืออำเภอขุนหาญ โดยจะจัดสลับกันแห่งละปี ภายในมีกิจกรรมมากมาย เช่น การออกร้านจำหน่ายพืชผักผลไม้ศรีสะเกษนา นาชนิด เช่น เงาะ ทุเรียน ลองกอง มังคุด สะตอ ยางพารา เป็นต้น การจัดขบวนแห่รถประดับด้วยผลไม้ การจัดนิทรรศการทางวิชาการ และการจัดกิจกรรมคาราวาน ชมสวนชิมผลไม้ศรีสะเกษ



  การแข่งขันวิ่งฮาล์ฟและควอเตอร์มาราธอนสู่ผามออีแดง 

จัดขึ้นในวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธันวาคมของทุกปี บนเส้นทางขึ้นสู่เขาพระวิหาร ระหว่างหมู่บ้าน ภูมิซรอล-ผามออีแดง อำเภอกันทรลักษ์ เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นเขาสู่ชายแดนที่ต้องวิ่งฝ่าสายหมอกใน ช่วงปลายฤดูฝน จึงนับเป็นเส้นทางที่ท้าทาย และเป็นสนามประลองกำลังที่นักกีฬาวิ่งมาราธอนให้ความ สนใจมากอีกแห่งหนึ่ง




 กิจกรรมการลงข่วงวัฒนธรรมศรีสะเกษ และ Mini Light & Sound ปราสาทขอมวัดสระ กำแพงใหญ่

เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านที่จัดขึ้น ณ ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่ เพื่อรอง รับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะในโอกาสต่าง ๆ โดยตกลงกับชุมชนที่รับผิดชอบดำเนิน งาน (ยกเว้นในช่วงฤดูฝน)
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นในช่วงค่ำโดยใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมง รายละเอียดของกิจกรรมประกอบ ด้วยการชมกิจกรรมลงข่วงวัฒนธรรมพื้นบ้าน ศรีสะเกษ ( การบายศรีสู่ขวัญต้อนรับการแสดงดนตรีพื้น เมือง การฟ้อนรำแบบสี่เผ่าไทยศรีสะเกษ การสาธิตศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านและการจัดเลี้ยงอาหารค่ำแบบ พาแลง) และการแสดงแสงเสียง ตำนานสร้างปราสาทขอมวัดสระกำแพงใหญ่ ชุด “ ศิวะราตรีแห่งศรีพฤท เธศวร ” สอบถามรายละเอียดได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลสระกำแพงใหญ่ โทร. 0 4536 8322 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น